‘เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี’ จุดประกายเยาวชนไทย มุ่งเฟ้นหาดาวดวงใหม่ด้านโลจิสติกส์ ในโครงการ “SCGJWD Next Gen Logistics ศักยภาพไม่มีที่สิ้นสุด” โครงการประกวดไอเดียสุดเจ๋ง!! สร้างสรรค์นวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ผสานเทคโนโลยีต่อยอดธุรกิจในอนาคต
จากความตั้งใจในการต่อยอดความคิดด้วยพลังของคนรุ่นใหม่ บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนได้จัดโครงการ “SCGJWD Next Gen Logistics ศักยภาพไม่มีที่สิ้นสุด” ปั้นเยาวชนให้เป็นดาวดวงใหม่ในวงการธุรกิจโลจิส ติกส์ ด้วยการประกวดไอเดียสุดปัง เฟ้นหา “ตัวจริง” มุ่งผลักดันเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้พร้อมก้าวสู่โลกของ ‘ธุรกิจโลจิสติกส์’ ติวเข้มนิสิตนักศึกษากว่า 130 ชีวิตผ่านกิจกรรม ‘BootCamp’ และ ‘Hackathon แบบ Non-Stop 24 ชั่วโมง’ ที่อัดแน่นด้วยหลักสูตรเข้มข้นจาก GURU ผู้เชี่ยวชาญ ที่คร่ำหวอดในวงการโลจิสติกส์ และเทคโนโลยีระดับพระกาฬ นำโดย คุณบรรณ เกษมทรัพย์, คุณชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา, ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน, รศ.ดร. มาโนช โลหเตปานนท์ และ ศ.ดร.รุธิร์ พนมยงค์ เป็นต้น ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้รอบด้าน โดยงานนี้น้องๆ เยาวชนยังได้ลงสนามร่วม Pitching ไอเดียสุดมันส์กับเหล่าคณะกรรมการกูรูตัวจริงด้วยการประกวดไอเดียสุดสร้างสรรค์ ผลักดันนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ผสานกับเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์สู่การต่อยอดธุรกิจในอนาคตได้จริง
หลังจากเปิดตัวโครงการ “SCGJWD Next Gen Logistics ศักยภาพไม่มีที่สิ้นสุด” ไปไม่นานก็ได้กระแสตอบรับเข้ามาอย่างล้นหลาม มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการมากถึง 138 คนจากที่ตั้งเป้าหมายไว้เพียง 80 คนเท่านั้น โดย SCGJWD ได้เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี โท และ เอก ทุกชั้นปีในสาขาโลจิสติกส์, เทคโนโลยี, นวัตกรรม, วิศวกรรมศาสตร์, บริหารและบัญชี, เศรษฐศาสตร์ และสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไม่จำกัดมหาวิทยาลัย ได้มาเรียนรู้ เห็นภาพ และ เข้าใจ โลกของธุรกิจโลจิสติกส์ พร้อมปล่อยไอเดียสุดสร้างสรรค์ที่มีความหลากหลายและมีความเป็นไปได้ในการนำมาต่อยอดพัฒนาในเรื่องของโลจิสติกส์และเทคโนโลยีกับทาง SCGJWD Logistics
นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในกูรูและกรรมการ ได้กล่าวถึง โครงการ SCGJWD Next Gen Logistics ว่า เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าโครงการนี้ได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จอย่างสูงเกินความคาดหมาย จึงทำให้คณะผู้จัดจะยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการส่งเสริมศักยภาพของคนรุ่นใหม่และเพิ่มโอกาสในการป้อนบุคลากรที่มีคุณภาพเข้าสู่ตลาดงานด้านโลจิสติกส์และด้วยเทรนด์ของธุรกิจโลจิสติกส์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการขนส่งและโลจิสติกส์ ไม่ว่าจะเป็นระบบเครือข่าย, วิทยาการหุ่นยนต์, Big Data, AI หรือ Blockchain เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกิจกรรมด้านโลจิสติกส์ให้มากขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดมาจากนำเอาไอเดียใหม่ๆ มาต่อยอดเพื่อให้เกิดเป็นนวัตกรรมซึ่งสอดคล้องการความตั้งใจของโครงการที่ต้องการผลักดันและสร้างโอกาสให้น้องๆ ได้นำเอาไอเดียเหล่านั้นมาทำให้เกิดขึ้นได้จริง”
“เราเชื่อว่าแนวคิดของคนรุ่นใหม่จะสามารถเข้ามาเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่จำเป็นในการพัฒนาและต่อยอดแนวคิดใหม่ๆ แต่มันจะเพียงพอหรือไม่? เพราะสำหรับยุคปัจจุบัน หากเราโฟกัสแค่เพียงด้าน Logistics เช่นเดิมอาจไม่เพียงพอ.. จะดีกว่าไหมถ้าเราเสริมด้าน Technology และ Business เข้าไปด้วยกันเพราะการเปลี่ยนผ่านของโลกยุคใหม่นั้น เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การ ‘มองการณ์ไกล’ และการคิดให้ ‘รอบด้าน’ จึงสำคัญอย่างมาก” นายบรรณ เกษมทรัพย์ กล่าวทิ้งทาย
โดยทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศจากโครงการ SCGJWD Next Gen Logistics ได้แก่ “ทีมไม่มีลิมิต ชีวิตติดนอน” 3 นักศึกษาจาก 3 สถาบันการศึกษา ได้แก่ นายวัชรพล โยธาดี ปี 4 คณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, น.ส.ถาวริน ทวีรุ่งบรรจง ปี 1 คณะบริหารธุรกิจเพื่อสังคม สาขาบัญชี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ น.ส.ลลิตา คำวงศ์ษา คณะการจัดการโลจิสติกส์และคมนาคมขนส่ง สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ชนะด้วยไอเดีย “InsightOut” นำเสนอคอนเซปต์การเพิ่มมูลค่าให้บริการขนส่งสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูงเพื่อเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่รักและให้ความสำคัญกับศิลปะ โดยเป็นการขยายบริการจาก “บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อาร์ท สเปซ จำกัด” ที่มอบประสบการณ์ด้านการจัดแสดงงานศิลปะ ให้บริการขนส่งงานศิลปะและบริการจัดเก็บรักษาผลงานศิลปะ เพื่อเพิ่ม Value ให้กับบริการเดิมที่ทำอยู่ โดยเน้นเป้าหมายไปที่บุคคลที่มีฐานะและหลงใหลในงานศิลปะ
สำหรับไอเดียของผลงานชนะเลิศในปีนี้ คือ การยกระดับการเก็บรักษาผลงานศิลปะด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IOT และ บล็อกเชน เพื่อออกแบบบรรจุภัณฑ์งานศิลปะที่มีความปลอดภัยสูงสุด ลูกค้าสามารถตรวจสอบอุณหภูมิ, ความชื้น และ ปรับการควบคุมให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละชิ้นงาน ข้อมูลเหล่านี้จะถูกบันทึกลงใน ‘ระบบบล็อกเชน’ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลจะไม่ถูกปรับเปลี่ยนในส่วนใดส่วนหนึ่ง ส่งผลให้ลูกค้าที่จะมาเป็นเจ้าของงานศิลปะต่อไปมีความมั่นใจในคุณภาพของผลงาน เมื่อนำเอาเทคโนโลยีมาผนวกเข้ากับการบริการจะช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการได้และยังสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้อีกด้วย
นอกจากน้องๆ ที่ร่วมโครงการจะได้รับความรู้ด้าน Logistics, Technology และ Business จากเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่ได้แชร์ความรู้ แนวคิด และ ประสบการณ์ด้านธุรกิจ น้องๆ ยังได้ร่วมแบ่งปันแนวคิดใหม่ๆ ร่วมกับผู้ที่เข้าร่วมโครงการด้วยกัน รวมถึงการได้แชร์ไอเดียโครงการกับพี่ๆ กูรู เพื่อต่อยอดแนวคิดและทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในอนาคต นอกจากนั้นยังได้ Connection จากผู้เข้าร่วมโครงการด้วยกันจากหลากหลายมหาวิทยาลัย คณะและชั้นปีที่อาจนำไปสู่การ “ทำงานจริง” ร่วมกันได้
ตรีสุคนธ์ สิทธิปัญญา หนึ่งในเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ครั้งได้ เล่าถึงความประทับใจว่า “โครงการ SCGJWD Next Gen Logistics ให้อะไรหลายๆ อย่างมาก.. ทั้ง ประสบการณ์ มิตรภาพ ทำให้เราได้แสดงศักยภาพเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดความคิดและความสามารถของตัวเอง” ขณะที่ กุณฑีรา ม้าแก้ว กล่าวถึง Module โครงการที่ประทับใจที่สุด คือ ประทับใจที่ได้เรียนเรื่อง Design Thinking เพราะนอกจากจะได้ฝึกความคิดสร้างสรรค์ ยังได้ทำความเข้าใจลูกค้า และ ฝึกตั้งคำถามมากขึ้น”
น้องๆ นิสิตนักศึกษาที่สนใจด้านการพัฒนาด้านโลจิสติกส์และเทคโนโลยี สามารถติดตามโครงการ “SCGJWD Next Gen Logistics” ในปีต่อๆ ไปเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันนวัตกรรมและสร้างสรรค์ให้กับวงการโลจิสติกส์ของประเทศไทย โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับโครงการ “SCGJWD Next Gen Logistics” ได้ที่ช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย, เว็บไซต์โครงการ, หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุค SCGJWDLogistics หรือ https://www.scgjwd.com/th แล้วพบกันได้ใหม่ใน “SCGJWD Next Gen Logistics” ปีต่อไป
#SCG #SCGJWD #SCGJWDNextGenLogistics