เปิดแล้ว La Braci ร้านอาหารเทรนด์ใหม่ ในคอนเซปต์แคชชวลไฟน์ไดนิ่ง

กรุงเทพฯ 19 พฤศจิกายน 2567 – เปิดแล้ว! La Braci ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งสไตล์ “โมเดิร์นแคชชวล” แห่งใหม่ ณ ชั้นลอยของตึก One City Centre ใจกลางย่านเพลินจิต ที่พร้อมนำเสนอความอร่อยผ่านศิลปะของอาหารเวสเทิร์น แต่ยังคงความหรูหราในแบบฉบับของไฟน์ไดนิ่งผสมผสานรสชาติและบรรยากาศที่ลงตัว ตอบโจทย์คนเมืองยุคใหม่ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายเพียงไม่กี่ก้าวจากสถานี BTS เพลินจิต พร้อมมุมถ่ายภาพสุดเก๋ที่ตอบโจทย์สายโซเชียล

ที่ร้าน La Braci  คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเทคนิคการปรุงอาหารที่เน้น การใช้ไฟจากฝืนของไม้สนทะเลคุณภาพ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมด้วยการตกแต่งร้านที่ผสมผสานระหว่างความโมเดิร์นและธรรมชาติอย่างกลมกลืนในคอนเซปต์ของถ้ำหิน และเน้นเฟอร์นิเจอร์เป็นโทนสีของไม้ ทำให้รู้สึกถึงความหรูหราและในขณะเดียวกันก็รู้สึกผ่อนคลาย

ที่ร้านสามารถรับรองลูกค้าได้ถึง 50 ที่นั่ง เหมาะสำหรับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อพิเศษสำหรับครอบครัว การพบปะเพื่อนฝูง หรือดินเนอร์สุดโรแมนติก La Braci ให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองผ่านการออกแบบครัวระบบเปิดที่เชฟและทีมงานสามารถเชื่อมต่อกับแขกได้โดยตรง แขกทุกท่านสามารถมองเห็นเรื่องราวกระบวนการสร้างสรรค์เมนูของแต่ละจาน พร้อมทั้งสัมผัสกลิ่นหอมอันยั่วใจจากเตารมควัน ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับอาหารแต่ละเมนู

เชฟแบงค์สาธิตวิธีการปรุงหอยนางรม โดยอุปกรณ์ Flambadou

La Braci นำเสนอเมนูแบบอะลาคาร์ท (à la carte) หนึ่งในเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน คือ Oyster Flambée 1 ชิ้น ( ราคา 350 บาท++) เมนูเรียกน้ำย่อยที่โดดเด่นด้วยการใช้เทคนิคปรุงอาหารแบบดั้งเดิมของยุโรป Flambadou เชฟจะเผาโลหะทรงกรวยจนร้อนจัดและเติมไขมันให้หลอมละลายหยดลงบนลงบนหอยนางรมสด ความร้อนจะช่วยให้หอยนางรมสุกกำลังดี และกลิ่นหอมคล้ายการย่างถ่านความพิเศษไม่จบแค่นั้น! จานนี้ยังเสริมด้วย ซอสครีมเบลอบล๊อง และน้ำมันต้นหอม เพิ่มลูกเล่นด้วยมะนาวคาเวียร์ ที่ให้รสเปรี้ยวสดชื่นในทุกคำ เสิร์ฟมาอย่างงดงามบนเปลือกหอย เป็นประสบการณ์ที่ทั้งอร่อยและตื่นตาตื่นใจในคราวเดียว

มาพูดถึงเมนูจานหลักกันบ้าง เริ่มกันที่จานแรกเอาใจสายเนื้ออย่าง Wood-Fired Australian Wagyu Angus Beef Flank ราคา (750บาท ++)ซึ่งที่เด็ดของจานนี้อยู่ที่ความหอมของถ่านไม้ที่ทางร้านใช้นำมาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์โดยจานนี้เสิร์ฟคู่กับหอมผัดคาราเมลที่ใช้ขั้นตอนการทำที่พิถีพิถันและบร็อกโคลีที่ย่างเกรียมตัดรสเข้มข้นของเนื้อวัว และที่จะขาดไปไม่ได้คือ Rof Emulsion สูตรของทางร้านเองซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากซอส chimichurri ของแอฟริกาตะวันตกเพื่อเติมกลิ่นหอมสดชื่นของสมุนไพร ช่วยปรับสมดุลให้กับความเข้มข้นของวากิวและทำให้จานนี้ครบรส

จานต่อมาใครสายกุ้งบอกเลยห้ามพลาดกับเมนู Wood Fire Giant River Prawn ราคา ( 800 บาท++) กุ้งแม่น้ำเนื้อแน่นเด้งมันเยิ้มเพิ่มรสชาติด้วยซัลซ่ามะเขือเทศเปรี้ยวสดชื่น พร้อมโรย wolffia หรือ ผำ ที่หาทานยาก เพิ่มเทกซ์เจอร์ในทุกคำ

ต่อด้วยเมนูแชร์สุดครีเอทีฟ Charred Baby Squid Potato Dumplings ราคา (450 บาท++) หมึกกระดองย่างไฟเนื้อหวานฉ่ำ เสิร์ฟคู่ดัมพลิงส์ที่ทำจากมันฝรั่งเนื้อนุ่มนวล ราดด้วยซอสเลมอนแซฟฟรอนและน้ำมันดิลล์หอมละมุน และด้วยรสชาติความเปรี้ยวนิดๆ ของเลมอนครีมซอส ทำให้ทุกสัมผัสรู้สึกถึงความสดชื่น

เปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน อย่าง Pavlova ราคา (350 บาท++) พัฟโลวา เมนูนี้ยังคงความคลาสสิก ในแบบของเมอแรงค์ที่กรอบนอกนุ่มใน ท๊อปด้วยคัสตาร์ดเสาวรสที่มาความเปรี้ยวสดชื่น เพิ่มมิติความอร่อยด้วยเนื้อเสาวรสสดอร่อยทุกสัมผัส

คุณ Sean Lai เชฟผู้เป็นเจ้าของร้าน La Braci

คุณ Sean Lai เชฟผู้เป็นเจ้าของร้าน La Braci กล่าวว่า “ปรัชญาการทำอาหารของเรา เกิดจากความเคารพอย่างลึกซึ้งต่อทั้งประเพณีและนวัตกรรม เราตั้งใจรังสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารสไตล์ไฟน์ไดนิ่งแบบสบายๆ แต่ทันสมัย เชิดชูเสน่ห์ดั้งเดิมของการปรุงอาหารด้วยไฟที่จุดจากไม้ที่ผสานกับเทคนิคสมัยใหม่ เป้าหมายของเราคือการส่งเสริมให้รสชาติตามธรรมชาติของวัตถุดิบที่เราคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันได้เปล่งประกายอย่างเต็มภาคภูมิด้วยวิถีแห่งความซับซ้อนและละเอียดอ่อนที่ได้จากไฟและควัน แต่ละจานเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนเพื่อรังสรรค์ประสบการณ์ที่น่าจะจดจำ”

เอกลักษณ์อีกประการที่สำคัญของ La Braci คือแนวคิดอาหารจานแชร์ เชฟ Sean เสริมว่า “เราเชื่อว่าอาหารจะอร่อยมากขึ้นเมื่อทานด้วยกัน เราจึงออกแบบเมนูเพื่อส่งเสริมประสบการณ์การมีส่วนร่วมนี้ให้แขกของเราได้ลิ้มลองรสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลายด้วยกัน นอกจากจะช่วยยกระดับความสุขในการรับประทานอาหารแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง สะท้อนถึงหัวใจของความเป็นอยู่แบบไทยที่มักกินข้าวด้วยกัน”

คุณ Sean กล่าวสรุปว่า “La Braci ตั้งใจที่จะไม่เป็นแค่ร้านอาหารธรรมดา แต่เราต้องการเป็นสถานที่ที่สร้างความรู้สึกพิเศษให้แก่ทุกท่านที่ให้เกียรติมาเยือน เราต้องการให้แขกสัมผัสได้ถึงความหลงใหลของเราในการสร้างบรรยากาศที่เชื่อมโยงทุกคนเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอาหาร La Braci คือร้านอาหารที่มุ่งเน้นการใช้ไฟสร้างรสชาติที่เลิศล้ำและเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากัน เราขอรับรองว่าประสบการณ์รับประทานอาหารในครั้งนี้ไม่ได้มีดีแค่รสชาติและกลิ่นหอมของการย่างด้วยไม้ แต่ยังยกระดับคุณภาพเกินความคาดหวังในราคาที่เข้าถึงได้”

คุณวชิรวิทย์ ธนันต์รัตน์ (เชฟแบงค์),คุณ Sean Lai เชฟเจ้าของร้าน

ร้าน La Braci บริหารงานโดยเชฟเจ้าของร้าน คุณ Sean Lai และ คุณวชิรวิทย์ ธนันต์รัตน์ (เชฟแบงค์) กรรมการบริษัทและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ร่วมกับทีมเชฟชาวไทยฝีมือเยี่ยมเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารเหนือระดับ ความพิเศษของเราคือเชฟจะเดินออกมาจากครัวเปิดและแนะนำเมนูที่ตนรังสรรค์ขึ้น แขกทุกท่านจะได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวการสร้างสรรค์อาหารที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดนิ่งของ La Braci สัมผัสบรรยากาศที่เป็นกันเอง เปลวไฟอันอบอุ่น และรับประทานอาหารด้วยกันอย่างเพลิดเพลิน ประสบการณ์อันน่าประทับใจคือสิ่งที่เรามุ่งหวังว่าแขกทุกท่านจะได้รับกลับไปในทุกครั้งที่มาเยือน

La Braci พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ เพียงไม่กี่ก้าวจากสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต

  • สอบถามเพิ่มเติม โทร.(66) 95-868-6565
  • อินสตาแกรม: @Labraci_bkk
  • ทำการจอง: info@labraci.com
  • Website: https://www.labraci.com/
  • พิกัด: One City Centre, OCC – วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์ ถนนเพลินจิต ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
Facebook Comments Box

About The Author