FLYNOW บุกเวทีมวยราชดำเนินปลุกเทรนด์ ‘The Legend of Fighters’. สร้างตำนานบทใหม่ให้กับ 2 นักสู้แห่งวงการแฟชั่นและศิลปะการต่อสู้ของไทย

สลัดลุคใหม่ให้วงการแฟชั่นโอต์กูตูร์ของไทย ด้วยคอนเซ็ปต์แฟชั่น “Solar Eclipse” หรือ “จันทร์กอดอาทิตย์” เรียกเสียงปรบมือรัวบนรันเวย์ BIFW 2023 มาแล้ว FLYNOW ก็หวนคืนสู่วงการแฟชั่นด้วยภาพ ลักษณ์ใหม่ที่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร สะท้อนถึงการหลอมรวมจิตวิญญาณอันเข็มแข็งและอ่อนโยน ซึ่งโอบกอด กันด้วยปัญญาแห่งรัก

พร้อมเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง ด้วยการร่วมงานกับบ้านเกิดของมวยไทยอย่างเวทีมวยราชดำเนิน และรายการ RWS : RAJADAMNERN WORLD SERIES (การแข่งขันที่ยกระดับมวยไทยสู่สากลให้ ทั่วโลกได้เห็นถึงอัตลักษณ์ที่แท้จริงของมวยไทยในรูปแบบ Sportainment ถ่ายทอดไปกว่า 200 ประเทศและ เขตการปกครองทั่วโลก) สื่อถึงความเป็นตำนานนักสู้ ผู้รันวงการมวยไทยและแฟชั่นของไทย มากว่า ทศวรรษ

หลังจากเรียกเสียงฮือฮากับสตรีทแฟชั่นสุดปังมาแล้ว 2 ครั้ง จากแลนมาร์กของเชียงใหม่สู่ปากคลอง ตลาดล่าสุด FLYNOW ได้จับมือกับเวทีราชดำเนินและ RWS ฉีกขนบใหม่ให้กับวงการอีกครั้งด้วยการถ่ายแฟชั่นบนเวทีมวยระดับตำนานของประเทศไทย ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 78 ปี และเวทีแจ้งเกิดให้กับตำนานนักมวยสากลชื่อดังของไทย อาทิ โผน กิ่งเพชร, ชาติชาย เชี่ยวน้อย, เขาทราย แกแล็กซี่, รัตนพล ส.วรพิน, ชนะ ป.เปาอินทร์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตเดโค เพื่อสื่อถึง The Legend of Fighters ตำนานนักสู้ที่ยังมีลมหายใจ แม้จะผ่านการแข่งขันที่ดุเดือดมานับครั้งไม่ถ้วน

“นี่เป็นโปรเจ็กต์ต่อเนื่องจากครั้งที่แล้วเราเล่นกับ cult (วัฒนธรรม) ของไทย เราเลยนึกถึงมวยไทย ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก และได้รับความร่วมมือจากเวทีมวยราชดำเนินและรายการ RWS เพื่อขับเคลื่อน 2 วัฒนธรรมไทยจาก 2 วงการที่แตกต่างกันสุดขั้วให้ครองใจคนทั่วโลก เราจึงนำเสื้อผ้าจากรันเวย์ล่าสุดมา matching กับสตรีทแฟชั่นให้สนุกและน่าสนใจขึ้น ผ่านเสื้อผ้าถึง 6 ลุคที่เรานำมา mix & match ให้แตกต่าง กันในแต่ละมุมของเวทีมวย เน้นความย้อนแย้งระหว่างโอต์กูตูร์กับสถานที่ เพื่อสื่อถึงการต่อสู้อันแข็งแกร่ง บนเวทีมวย และการต่อสู้ด้วยความสวยงามของวงการแฟชั่น”

ภายใต้ผลงานการออกแบบของ คุณลิ้ม-สมชัย ส่งวัฒนา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ FLYNOW จับมือกับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ นำทีมโดย ลลิตา นริสรานนท์ ครีเอทเสื้อผ้าที่ฉีกขนบของ FLYNOW เพื่อสื่อถึง ความกล้าหาญและความท้าทายครั้งใหม่ ที่จะทำให้แบรนด์ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แฟชั่นเซ็ตทั้ง 6 ลุคของ FLYNOW บนเวทีมวยราชดำเนินจึงมีความขบถและย้อนแย่งกว่าทุกครั้ง เมื่อเสื้อผ้าโอต์กูตูร์ที่เนี้ยบ ทั้งรายละเอียดและการตัดเย็บปรากฎบนเรือนร่างของนางแบบ LGBTQ+ น้องใหม่มาแรงแห่งวงการ

“รู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่ได้ถ่ายแฟชั่นเซ็ตนี้ให้กับ FLYNOW เป็นการทำงานที่ขนลุกหลายครั้งมาก เพราะเจมม่าได้สวมชุดโอต์กูตูร์ของแบรนด์ที่เราชอบมาตั้งแต่เด็ก แล้วยังได้ถ่ายแฟชั่นบนเวทีมวยระดับ ตำนานของไทยและของโลกด้วย โดยเฉพาะตอนที่ถ่ายแฟชั่นกับนักมวยมืออาชีพท่ามกลางแสง สี และเสียง เชียร์ของผู้คนรอบสนาม เป็นแมตช์ที่ชกกันจริงๆ แล้วเราสวมชุดสีเงินถือธงชาติไทยอยู่ข้างสนามมันเป็น โมเมนท์ที่ตื่นเต้นและตื้นตันใจมากค่ะ

“ทุกครั้งที่สวมเสื้อผ้าของ FLYNOW ให้ความรู้สึกเหมือนโอต์กูตูร์ของแบรนด์แฟชั่นระดับโลก และเป็นชุดที่สร้างความภูมิใจให้คนไทย FLYNOW เป็นมากกว่าเสื้อผ้า Ready-to-wear เพราะเวลาสวมใส่ แล้วเรารู้สึกมั่นใจในรูปร่างและสง่างามขึ้นด้วย อีกอย่างเจมม่ามองว่า มวยกับแฟชั่นเป็นงานศิลปะเหมือนกัน แม้หลายคนจะมองว่าแตกต่างกันสุดขั้ว แต่จริงๆ แล้วเรื่องของศิลปะเป็นภาษาสากลที่คนทั่วโลกเข้าถึงได้ โดยปราศจากคำพูดค่ะ”

เจมม่า-พิรดา เสาวรส นักศึกษาและนางแบบ LGBTQ+ รุ่นใหม่แห่งวงการแฟชั่น ผู้เคยผ่านการ ฝึกมวยไทยมาแล้วในชีวิตจริง เจมม่าพูดถึงความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแฟชั่นเซ็ตทั้ง 6 ลุคจาก FLYNOW แบรนด์จึงเลือกเธอมานำเสนอแฟชั่นเซ็ตพิเศษผลงานของช่างภาพแนวสตรีทมากฝีมือ สมัชชา อภัยสุวรรณ ที่สามารถดึงคาแร็กเตอร์ของเจมม่าออกมาได้อย่างมีเสน่ห์และสง่างาม ทั้งยังปรับภาพลักษณ์ใหม่ ให้เวที ราชดำเนินเปรียบเสมือนรันเวย์ของเหล่า Fighters ในทุกวงการ

“ด้วยสถานที่และเสื้อผ้าของ FLYNOW ผมอยากให้แฟชั่นที่ถ่ายจากกล้องถ่ายรูปแนววินเทจ ด้วยวิธี การทำงานแบบกองโจร เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนภาพข่าวจากเวทีมวยสมัยก่อน ผสมผสานความเป็นแฟชั่น แนวสตรีท เราจึงอยากให้อารมณ์ของแสงแข็งๆ ที่มีคาแร็กเตอร์ชัดเจน ผมพยายามดึงความเป็นนักสู้ของ 2 ตำนานจากวงการมวยและแฟชั่นออกมา เพื่อสื่อถึงหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ของไทยดีไซเนอร์ และมวยไทยกับเวที แห่งศักดิ์ศรีและเกียรติยศ แฟชั่นเซ็ตนี้จึงสื่อถึงความเข้มแข็งของจิตใจ ที่ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้งพวกเขา ก็พร้อม จะลุกขึ้นสู้ใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า รวมถึงเจมม่าก็สามารถดึงพลังของนักสู้ออกมาได้อย่างมีเสน่ห์เช่นกันครับ”

FLYNOW ยังได้ฉีกกฎเกณฑ์ของการออกแบบเป็นคอลเล็กชั่น ด้วยการเปิดตัวเสื้อผ้า ดีไซน์ใหม่โดยไม่ต้องรอฤดูกาลอีกต่อไป เพื่อให้ลูกค้าแวะเวียนมาที่ช็อปและร้านค้าออนไลน์ได้บ่อยครั้ง ส่งผลให้ยอดขายของแบรนด์เติบโตขึ้นเรื่อยๆ พร้อมเปิดตัว Flagship Store ในเกษรวิลเลจ (Gaysorn Village) เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ภายใต้การออกแบบตกแต่งร้านที่ไม่เคยมีมาก่อนของ FLYNOW เพื่อให้คุณเลือกซื้อเสื้อผ้าแบบ Ready-to-wear จนถึงเสื้อผ้าแบบ Tailor Made ทั้งยังมีห้องรับรอง คอยให้บริการลูกค้าอย่างเป็นส่วนตัว