“อาจารย์ป๋า – ปุญญาดิศ” พราหมณ์เจ้าพิธีตัวจริง ออกโรงเตือน ทุกอย่างต้องเดินทางสายกลาง ทุกอาชีพมีทั้งคนดีและคนไม่ดี อย่าเชื่อโดยไม่ไตร่ตรอง
ช่วงนี้ไม่ว่าจะวงการศาสนา วงการหมอดู หรือแม้กระทั่งล่าสุด เกี่ยวกับศาสตร์ฮวงจุ้ย ก็สะเทือนกันไปหมด วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ ‘อ.ป๋า – ปุญญาดิศ เถียรพิชิต’ พราหมณ์เจ้าพิธีตัวจริง ถึงกระแสดังกล่าว ซึ่งอาจารย์ได้ให้แง่คิดเตือนสติ ยึดทางสายกลาง อย่าหลงชื่อโดยไม่ไตร่ตรอง
“เรื่องกระแสการสอนธรรมะตอนนี้ เราสามารถหาความรู้ได้จากหลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะสื่อโซเชียลที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย อาจารย์แต่ละท่านก็มีวิธีสอนที่แตกต่างกันไป บางท่านอาจใช้คำพูดที่ฟังไม่รื่นหูนัก แต่ผู้ฟังก็สามารถเข้าใจได้ แต่อะไรที่มันมากเกินไป ซ้ายสุด ขวาสุด หรือการใช้คำพูดที่รุนแรงเกินไป ผมว่ามันไม่ถูกจริตกับสังคมไทย สังคมไทยเป็นสังคมของการเอื้อต่อกัน เป็นสังคมของสหธรรมมิกซ์กันในเรื่องของศาสนา บางทีการจะปรับเปลี่ยนแนวความคิด อาจต้องใช้ระยะเวลา จะเปลี่ยนแปลงในทันทีทันใดคงไม่ได้
อย่างตัวผมเองบัตรประชาชนคือศาสนาพราหมณ์ฮินดูนะ ถึงแม้ผมจะรักเคารพพระพุทธเจ้า รักพุทธศาสนา รักพระหลายๆ องค์ นี่คือความเชื่อและลัทธิวิถีของผม ซึ่งถ้าผมไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน และผมสามารถทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะครับ เพราะฉะนั้นเรื่องการเมือง ศาสนา เรื่องวิถีความเชื่อ เถียงกันให้ตายก็เป็นปัญหาโลกแตก เรื่องการเมืองก็แบ่งสีกัน เรื่องศาสนาความเชื่อ สังคมก็จะแตกแยก แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร
สำหรับผม “พุทธวจน” ที่แท้จริงคืออะไร สิ่งที่หลายอาจารย์พูดอาจจะไม่ใช่พุทธวจนที่แท้จริงก็ได้ หรืออาจจะแท้จริงไม่ทั้งหมดก็ได้ มันอาจจะคลาดเคลื่อนก็ได้นะ 2,500 กว่าปีผ่านมาแล้ว ผมบอกเลยว่าทุกศาสนาก็มีทั้งน้ำเน่าและน้ำดี ปะปนกัน ผมพูดในความที่ผมเป็นศาสนาพราหมณ์ฮินดู เพราะฉะนั้นต้องเคารพความเชื่อซึ่งกันและกัน ต้องให้เกียรติความเชื่อซึ่งกันและกัน ถ้าแก่นพระพุทธศาสนาคือทำความดี ถ้าสิ่งนั้นทำให้คนไปในทางที่ดีได้ก็ต้องให้เกียรติกัน ดังนั้นควรพูดให้แง่คิดพระธรรมคำสอนได้ แต่ไม่จำเป็นต้องมาถกเถียงกันจนเกิดความแตกแยก”
ส่วนเรื่องศาสตร์ฮวงจุ้ย ซึ่งอาจารย์ป๋าเองก็เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญศวสตร์ฮวงจุ้ย ให้ความเห็นว่า…
“เรื่องฮวงจุ้ย ผมมองว่าต้องใช้วิจารณญาณเยอะ ในการเอาชื่อเสียง วิชาความรู้มารีดทรัพย์จากคนที่ศรัทธา ก็กลับมาสู่ทางสายกลางว่า เงินหลักล้านกับเรื่องเหล่านี้มันมากเกินไปมั้ย คนจะทำก็ต้องคิดด้วย แต่ทีนี้เขาไปขู่ว่าถ้าไม่ทำแล้วจะตาย ไม่ทำแล้วจะบ้านแตก จริงๆ แล้วมันเป็นจรรยาบรรณที่เขาห้ามหมอดูทุกศาสตร์ทุกแขนงอยู่แล้ว มันผิดวิถี ผิดจารีต ผิดคุณธรรมจริยธรรมทุกอย่าง ไม่ต้องเป็นหมอดูหรอก ต่อให้เป็นคนธรรมดาแล้วไปขู่แบบนั้นก็ไม่ได้เหมือนกัน
พอมีข่าวแบบนี้ออกมาเรื่อยๆ ก็มีคนมาถามผมถึงเรื่องนี้เยอะมาก หลักๆ คืออะไรที่ทำให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน มันเป็นบาปนะ แต่สำหรับผมไม่ได้กระทบอะไร ถามว่าศาสตร์ฮวงจุ้ยมีอยู่จริงมั้ย มีอยู่จริง และก็มีมาเป็นพันปีแล้ว แต่มาระยะหลังๆ นี่มันเสียที่คน ไม่ได้เสียที่วิชา แต่พอมีแบบนี้มันก็เป็นช่องว่างให้คนมาว่าได้ จริงๆ ฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของทิศทางลม ทิศทางน้ำ พลังงาน สีแสงมากกว่า แต่มันก็มีข้อดีนะ พอมีเรื่องจะทำให้คนจะมีสติไตร่ตรองมากขึ้น คนที่เป็นอาจารย์เองก็จะได้มีการไตร่ตรองมากขึ้นด้วย
สิ่งที่อยากจะแนะนำก็คือมีพ่อแม่พี่น้องลูกหลานก็ต้องช่วยกันเตือน เพราะคนเฒ่าคนแก่บางทีก็คิดไม่ทันคนที่จะมาหลอก ถ้าถึงขั้นมีคนมาขู่ว่าถ้าไม่ทำแล้วจะตาย ไม่ทำแล้วบ้านแตก อันนี้ต้องคุยกันดีๆ ผมว่าสังคมตอนนี้น่าเป็นห่วง และผมมองว่าเดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยเชื่อคนในบ้าน แต่ไปเชื่อโซเชียล เชื่อสื่ออะไรต่างๆ มากจนเกินไป ก็ต้องระวังกันให้มากๆ ครับ
ผมเองก็เคยไปแก้ฮวงจุ้ยให้บ้านที่เคยทำมาผิดๆ เหมือนกัน แต่ผมค่อนข้างเห็นใจเขานะ เขาก็เสียเงินมาเยอะแล้วในการทำ ถ้าผมต้องมาแก้ก็จะพยายามให้เขาเสียเงินน้อยที่สุด อย่าให้เขาต้องมาหนีเสือปะจระเข้ ที่จะไปแนะนำให้เขาทุบรื้อนี่น้อยมาก เพราะมันมีวิธีเยอะแยะ บางทีเสริมด้วยด้วยสี ด้วยอุปกรณ์หลายๆ อย่างที่มีอยู่แล้วในบ้าน หรือที่ไม่ต้องเสียเงินเยอะ”
ก่อนหน้านี้มีกระแสการ ‘ขโมยดวง’ ตรงนี้ยังเป็นที่ข้อกังขา ว่ามีจริงไหม?
“เรื่องขโมยดวงผมว่ารากฐานมันมาจากการทำของใส่มากกว่า ถามว่ามีจริงมั้ย ต้องพูดไปถึงสมัยก่อนกับการที่เอาชื่อนามสกุล เอาเล็บ เส้นผมมาทำของใส่ มันเป็นศาสตร์สกปรกที่ผมก็ว่ามันมีอยู่จริง แต่ผมว่าน้อยคนที่จะทำได้ แต่ที่สำคัญคือถ้าเรามีความดีคุ้มตน เรามีศีลครบ ให้เขาทำมายังไงมันก็ไม่เข้า ไม่ต้องไปกลัวเลยถ้าคุณเป็นคนดี อาจารย์จะเก่งมาจากไหนก็ทำอะไรคุณไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ย้อนกลับมาที่ตัวเรา ศีลเป็นเครื่องคุ้มภัย พระพุทธเจ้าก็เคยบอกเอาไว้แล้ว ผมว่าถ้าคุณเป็นคนไม่ดี ไม่ต้องทำของใส่หรอก คุณก็วิบัติเอง จะว่าเรื่องขโมยดวงเป็นเรื่องไร้สาระก็ไม่เชิง แต่ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีแก่นสารมากกว่า”
ติดต่องาน อาจารย์ป๋า
คุณเอนจอยด์ 094-469-4963, 065-662-4599